มีการกล่าวไว้ว่า “การทำประกันภัยรถยนต์นับเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการบริหารทรัพย์สิน” เพราะเป็นทางเลือกหลักในการลดความสูญเสียอันเนื่องมาจากอุบัติภัยหรือการสูญหายที่อาจเกิดต่อรถยนต์ของผู้เอาประกัน การทำประกันรถยนต์นั้นไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงต่อการสูญเสียลดลง แต่การประกันภัยรถยนต์จะช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น และไม่ทำให้แผนการบริหารการเงินของผู้ทำประกันภัยต้องสะดุดหรือเสียหาย ผู้รับประกันภัยจะเป็นผู้จ่ายค่าชดเชยรวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุตามความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ดังกล่าว ดังนั้นในการวางแผนและบริหารการเงินอย่างมีประสิทธิภาพนั้น การประกันความเสี่ยงของทรัพย์สินต่างๆด้วยการประกันภัยจัดว่าเป็นวิธีบริหารความเสี่ยงที่มีรูปแบบเป็นสากลและสามารถไว้วางใจได้
อย่างไรก็ตามก่อนการทำประกันภัยทุกประเภท ผู้เอาประกันต้องศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขในการทำประกันภัยอย่างถี่ถ้วนเพื่อให้การทำประกันภัยเป็นการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด